บัตรผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ไม่สะดวกที่จะจ่ายเงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียว บัตรผ่อนช่วยให้สามารถแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ได้ตามกำลังทรัพย์ของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม ก่อนจะตัดสินใจสมัครบัตรผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า มีข้อมูลสำคัญหลายอย่างที่ควรทราบไว้ในบทความนี้ ติดตามได้เลย
คุณสมบัติผู้สมัคร
โดยปกติแล้ว ผู้ที่จะสมัครบัตรผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป มีรายได้ประจำ และสามารถแสดงเอกสารยืนยันรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หรือสำเนาบัญชีธนาคาร บางที่อาจต้องมีบุคคลค้ำประกันด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท
วงเงินให้ผ่อน
แต่ละบัตรจะมีวงเงินสูงสุดที่ให้ผ่อนแตกต่างกันไป ตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน โดยพิจารณาจากรายได้และความสามารถในการผ่อนชำระของลูกค้าเป็นหลัก ถ้ามีรายได้สูงและมีประวัติการผ่อนชำระที่ดีก็มักจะได้วงเงินที่สูงขึ้น
ระยะเวลาผ่อน
บัตรผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ให้ผ่อนชำระได้นานตั้งแต่ 3-36 เดือน ยิ่งผ่อนนาน ยอดผ่อนต่องวดก็จะยิ่งน้อยลง แต่ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็จะยิ่งสูง ลูกค้าควรวางแผนระยะเวลาผ่อนให้สอดคล้องกับรายได้ของตัวเอง ไม่ควรผ่อนนานเกินไปจนทำให้เสียดอกเบี้ยมาก
อัตราดอกเบี้ย
ดอกเบี้ยของบัตรผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 1.5-2% ต่อเดือน หรือราว 18-24% ต่อปี ซึ่งนับว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยสินเชื่อประเภทอื่นๆ เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจึงควรเลือกผ่อนในระยะสั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้
การคิดดอกเบี้ย
ที่สำคัญคือ ดอกเบี้ยผ่อนสินค้าจะคิดแบบลดต้นลดดอก กล่าวคือ ยอดต้นเงินที่ใช้คิดดอกเบี้ยในแต่ละงวดจะลดลงเรื่อยๆ ดังนั้นดอกเบี้ยรวมที่ต้องจ่ายจริงจะน้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ประกาศไว้มากพอสมควร โดยเฉลี่ยแล้วดอกเบี้ยรวมที่จ่ายจริงนั้นมักเป็น 50-60% ของอัตราดอกเบี้ยรายปีที่แจ้งไว้
การชำระเงิน
ส่วนใหญ่แล้วลูกค้าจะต้องผ่อนชำระเป็นรายเดือนผ่านบัญชีธนาคารที่ระบุไว้ บางที่อาจให้ชำระได้หลายช่องทาง เช่น เคาน์เตอร์ร้านค้า จุดบริการรับชำระเงิน หรือออนไลน์ ลูกค้าควรเลือกวิธีชำระเงินที่สะดวกกับตัวเองมากที่สุด และควรชำระเงินให้ตรงเวลา มิฉะนั้นจะมีค่าปรับและถูกเก็บดอกเบี้ยเพิ่ม
สิทธิพิเศษ
บางบัตรอาจมีสิทธิพิเศษเสริมอื่นๆ เช่น ส่วนลดที่ร้านค้า การรับประกันสินค้า หรือเครดิตเงินคืน ซึ่งเป็นสิ่งดึงดูดให้ลูกค้าสมัคร แต่ก็ไม่ควรให้น้ำหนักกับส่วนนี้มากนัก ให้ดูเรื่องอัตราดอกเบี้ยและความสะดวกในการผ่อนเป็นหลักจะดีกว่า
สินค้าที่ผ่อนได้
สินค้าที่ผ่อนได้มีหลากหลาย ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ โดยร้านค้าจะต้องเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ออกบัตรผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยจึงจะสามารถรับชำระด้วยบัตรผ่อนได้
การยกเลิกบัตร
หากต้องการยกเลิกบัตร ควรแจ้งบริษัทล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน พร้อมชำระหนี้ที่ค้างอยู่ให้หมด มิเช่นนั้นอาจมีค่าปรับหรือส่งผลเสียต่อเครดิตบูโร ที่ควรระวังคือการยกเลิกบัตรแต่ยังค้างชำระหนี้ เพราะจะถูกคิดดอกเบี้ยปรับสูงมากในอัตรา 3-5% ต่อเดือน
ผลกับเครดิตบูโร
การผ่อนชำระไม่ตรงเวลาจะส่งผลเสียต่อประวัติเครดิตบูโรของลูกค้าได้ หากค้างชำระเกิน 3 เดือน ประวัติการชำระเงินจะเป็นลบอยู่เป็นเวลาหลายปี ซึ่งจะทำให้การขอสินเชื่อในอนาคตเป็นไปได้ยาก ดังนั้นจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้ขึ้น
โดยสรุปแล้ว บัตรผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าถือเป็นทางออกที่ดีสำหรับผู้ที่อยากได้สินค้าแต่มีงบประมาณจำกัด อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคจะต้องศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจเงื่อนไขต่างๆ อย่างถ่องแท้ รวมถึงประเมินกำลังทรัพย์ในการผ่อนชำระของตัวเองอย่างรอบคอบ อย่าใช้อารมณ์ชั่ววูบหรือคำโฆษณาชวนเชื่อมาตัดสินใจ เพราะอาจทำให้ผ่อนไม่ไหวจนกลายเป็นหนี้สินไปในที่สุด หากวางแผนการใช้บัตรผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างรอบคอบและชำระหนี้อย่างมีวินัย บัตรผ่อนก็จะเป็นเครื่องมือช่วยให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างแท้จริง